เคล็ดลับทำให้ธุรกิจมีกำไร

แนวทางที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณ ไม่ขาดทุน

สิ่งที่คนทำธุรกิจต้องการอยากได้เหมือนกันก็คือ การได้กำไรหรือผลประกอบการสูงๆ และมีต้นทุนการผลิตที่น้อยที่สุด แต่บางครั้งการทำธุรกิจเองก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ เราไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าได้เลยว่าธุรกิจของเราในอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะบางครั้งวิกฤติ ก็เข้ามาโดยที่ไม่ทันตั้งตัว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้งไปเลยก็มี อย่างเช่นโรคระบาดโควิด-19 เป็นต้น

แต่ถ้าหากคุณได้เริ่มทำธุรกิจแล้ว สิ่งที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณไม่เจ้งก็คือการเตรียมแผนสำหรับรับมือกับวิกฤติเหล่านี้ก่อน ว่าถ้าหากเกิดขึ้น จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร ลองมาดูว่าหากธุรกิจของคุณกำลังเจอปัญหา มีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยต่อลมหายใจให้กับธุรกิจของเราได้

1. เช็คค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

เมื่อธุรกิจของคุณกำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤติ สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกก็คือ ให้เช็คว่ามีค่าใช้จ่ายในส่วนใดบ้างที่ไม่จำเป็น หรือว่าเป็นส่วนที่มีค่าใช้จ่ายสูงเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้ตัดค่าใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไปได้ เป็นการลดต้นทุน

หรืออาจจะต้องเลิกจ้างคนงาน จ้างให้น้อยลงกว่าเดิม อย่างไรก็ตามในการลดต้นทุนเหล่านี้ ไม่ควรจะให้กระทบกับคุณภาพของสินค้าด้วย ไม่ใช่ลดแล้วคุณภาพของสินค้าต่ำลง แบบนั้นอาจจะไม่ใช่แนวทางแก้ไขที่ดีนัก

2. เช็คสินค้าในสต็อก

เป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจต้องทำอยู่แล้วเมื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้า นั่นก็คือการสำรวจสินค้าในสต็อกว่ามีมากน้อยแค่ไหน ยอดขายเป็นอย่างไร ถ้าหากว่ามีสินค้าในสต็อกมาเกิน แต่ว่าทำยอดขายไม่ค่อยดี นั่นหมายความว่ามีการใช้ต้นทุนการผลิตที่สูง ทำให้ผลประกอบการต่ำ ต้องทำการลดจำนวนการผลิตให้น้อยลง ให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด เพื่อไม่ให้สินค้าค้างสต็อกมากเกินไป

3. หาเงินทุนหมุนเวียน

หากสภาพคล่องของธุรกิจไม่ดีพอ เราก็ต้องหาวิธีการที่จะช่วยทำให้ได้เงินเข้ามาหมุนในธุรกิจ อาจจะด้วยการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น ผลกำไรอาจจะได้น้อยลงกว่าแน่นอน แต่ข้อดีก็คือจะทำให้คุณมีเงินเข้ามาหมุนต่อในธุรกิจ จนเมื่อธุรกิจเข้าสู่สภาพเดิม ก็ค่อยกลับมาขายปรกติ

4. ปิดในส่วนที่ไม่จำเป็น

เมื่อธุรกิจของเรากำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤติ แนวทางในการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือการเลือกปิดบางแผนก ที่คิดว่ามีความจำเป็นน้อยที่สุด เพื่อให้แผนกอื่นๆ สามารถดำเนินการต่อได้ หรือถ้าจำเป็นต้องเลิกจ้างก็ควรต้องทำเช่นกัน

5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

การทำธุรกิจแน่นอนว่าต้องมีคนที่เคยผ่านประสบการณ์อย่างนี้มาแล้ว อาจจะเป็นธุรกิจเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน การปรึกษากับผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน จะช่วยให้เราได้ทราบแนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ไม่ต้องมาเสี่ยงลองผิดลองถูกเอง ซึ่งการปรึกษาก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายบ้าง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน

จะเห็นว่าการทำธุรกิจให้อยู่ยั่งยืนนั้น ควรปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และวิกฤติต่างๆ เมื่อไหร่ที่หยุดนิ่ง เมื่อนั้นก็มีโอกาสที่ธุรกิจเราจะเจ้งได้ การหาทางเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า จะช่วยให้ธุรกิจของเราไม่เสี่ยง หรือถ้าเสี่ยงก็เป็นเปอร์เซ็นต์น้อยเท่านั้น